เริ่มทำกระเป๋าผ้าขายไม่ใช่เรื่องยาก ต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสม ออกแบบให้ปัง และเลือกโรงงานที่มีคุณภาพ ช่วยสร้างแบรนด์ให้เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว
เมื่อถุงพลาสติกที่แสนสะดวกและราคาถูกกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่ภาวะขยะพลาสติกล้นโลก รวมถึงทำลายระบบนิเวศ "กระเป๋าผ้า" จึงกลายเป็นสินค้ายอดนิยมที่มีโอกาสในการขายได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัว ของพรีเมียม หรือสำหรับแจกตามอีเวนต์ ซึ่งย่อมตามมาด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดทางการตลาด
สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นธุรกิจทำกระเป๋าผ้าขาย หรือกำลังมองหาวิธีเพิ่มยอดขายให้กระเป๋าผ้าที่วางขายอยู่ การวางแผนการตลาดให้เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ไปจนถึงการเลือกพาร์ตเนอร์ในการผลิตสินค้ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะเปรียบเสมือนต้นน้ำที่ช่วยนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้
จากกระแส “Say No to Plastic Bags” ที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 2010s ทำให้ทั่วโลกตื่นตัวเรื่องการลดการใช้ถุงพลาสติกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในประเทศไทยมีการประกาศใช้มาตรการเลิกใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกตั้งแต่ช่วงปี 2563 ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้กระเป๋าผ้าในโอกาสต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำไปจับจ่ายซื้อสินค้า ไปจนถึงการใช้เป็นกระเป๋าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี 3 เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้การทำกระเป๋าผ้าขายยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในปัจจุบันและต่อเนื่องไปอีกหลายปีในอนาคต
ด้วยกระแสการตื่นตัวเรื่องโลกร้อนและมลพิษทางอากาศ ทำให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ๆ ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือ Single-use Plastic ยังมีอัตราที่ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ทำให้กระเป๋าผ้ากลายเป็นทางเลือกของผู้ที่ต้องการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมกับช่วยลดขยะพลาสติกไปในตัว
กระเป๋าผ้า ไม่ได้เป็นเพียงแค่ถุงช็อปปิงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการนำไปทำเป็นกระเป๋าแจกในงานอีเวนต์ต่าง ๆ หรือเป็นกระเป๋าพรีเมียมขององค์กร เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่แบรนด์ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัทและหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย
กลุ่มลูกค้าของกระเป๋าผ้ามีหลากหลาย ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคที่นำสินค้าไปใช้เอง และลูกค้ากลุ่มองค์กร หน่วยงาน บริษัท ธุรกิจโรงแรม หรือแบรนด์ที่ต้องการทำ Merchandise Product เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่แบรนด์นอกเหนือจากสินค้าหลัก
การทำกระเป๋าผ้าขายเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปนัก ซึ่งนอกจากจะต้องมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี ยังต้องมีการวางแผนการผลิตที่มีขั้นตอนชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยการสั่งผลิตกระเป๋าผ้าเพื่อนำไปขายหรือนำไปใช้เป็นของพรีเมียม มี 5 ขั้นตอนที่สำคัญดังต่อไปนี้
วัสดุที่ใช้ในการตัดเย็บ หรือ “ผ้า” เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยกำหนดความทนทานและราคาของกระเป๋า ซึ่งผ้าแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและความเหมาะสมในการผลิตที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
ดีไซน์ของกระเป๋ามีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า หรือการสร้างความประทับใจให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น จึงควรวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง เพื่อเข้าใจถึงความชอบและความต้องการในการใช้งานอย่างแท้จริง โดยควรคำนึงถึง 3 สิ่งดังต่อไปนี้
การเลือกสีที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น
การพิมพ์ลวดลายหรือลงโลโก้ให้มีเอกลักษณ์ ช่วยให้คนจำแบรนด์ได้มากขึ้น
การออกแบบที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ เลือกใช้สี การออกแบบ และลวดลายที่ช่วยสร้าง Brand Identity ทำให้ลูกค้าจดจำ โดยคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การนำไปใช้งานเป็นตัวกำหนดวัตถุประสงค์ของการเลือกขนาดของการทำกระเป๋าผ้าขาย โดยทั่วไปมีหลักในการออกแบบดังนี้
คุณภาพของกระเป๋าถือเป็นหัวใจหลักในการใช้งาน ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และความพึงพอใจของลูกค้า การเลือกโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานสูงจะช่วยให้มั่นใจว่าสินค้าที่ได้รับจะมีความสวยงาม แข็งแรง ทนทาน และตรงตามความต้องการของตลาด ควรเลือกโรงงานที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไประหว่างการออกแบบและผลิตกระเป๋าผ้าก็คือ การวางแผนการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขาย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่องทางต่าง ๆ เช่น
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและเกิดการบอกต่อ คือการเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าช็อปปิงที่มีคุณภาพ หากคุณกำลังมองหาโรงงานรับทำกระเป๋าช็อปปิง พร้อมพิมพ์ลายและโลโก้ตามต้องการ Billy Bags พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ เลือกวัสดุ ตัดเย็บ พิมพ์โลโก้ ไปจนถึงการจัดส่งทั่วประเทศ
ทำไมต้องเลือก Billy Bags ?
สามารถกรอกฟอร์มบนเว็บไซต์เพื่อติดต่อเราและรับใบเสนอราคาได้เลยวันนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-802-2194, 086-329-4048 (คุณเภา), 085-186-2523 (คุณแพรว) ในเวลาทำการ 08:00 - 17.00 น. หรือ LINE Official https://line.me/ti/p/LOs4iLUIDe
ข้อมูลอ้างอิง