+
อยากทำกระเป๋าผ้าขายต้องรู้ ! เคล็ดลับเริ่มต้นธุรกิจให้ปัง
บทความ

อยากทำกระเป๋าผ้าขายต้องรู้ ! เคล็ดลับเริ่มต้นธุรกิจให้ปัง

  • สร้างโดย admin billybag
  • 26 มี.ค. 2568, 13:14 น.

เริ่มทำกระเป๋าผ้าขายไม่ใช่เรื่องยาก ต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสม ออกแบบให้ปัง และเลือกโรงงานที่มีคุณภาพ ช่วยสร้างแบรนด์ให้เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว

เปิดเคล็ดลับธุรกิจ ที่คนอยากทำกระเป๋าผ้าขายต้องรู้


เมื่อถุงพลาสติกที่แสนสะดวกและราคาถูกกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม และนำไปสู่ภาวะขยะพลาสติกล้นโลก รวมถึงทำลายระบบนิเวศ "กระเป๋าผ้า" จึงกลายเป็นสินค้ายอดนิยมที่มีโอกาสในการขายได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัว ของพรีเมียม หรือสำหรับแจกตามอีเวนต์ ซึ่งย่อมตามมาด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดทางการตลาด 

สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นธุรกิจทำกระเป๋าผ้าขาย หรือกำลังมองหาวิธีเพิ่มยอดขายให้กระเป๋าผ้าที่วางขายอยู่ การวางแผนการตลาดให้เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ไปจนถึงการเลือกพาร์ตเนอร์ในการผลิตสินค้ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะเปรียบเสมือนต้นน้ำที่ช่วยนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ 


ทำไมการทำกระเป๋าขายถึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ?

จากกระแส “Say No to Plastic Bags” ที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 2010s ทำให้ทั่วโลกตื่นตัวเรื่องการลดการใช้ถุงพลาสติกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในประเทศไทยมีการประกาศใช้มาตรการเลิกใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกตั้งแต่ช่วงปี 2563 ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้กระเป๋าผ้าในโอกาสต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำไปจับจ่ายซื้อสินค้า ไปจนถึงการใช้เป็นกระเป๋าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี 3 เหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้การทำกระเป๋าผ้าขายยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในปัจจุบันและต่อเนื่องไปอีกหลายปีในอนาคต 

1. เทรนด์รักษ์โลกมาแรง

ด้วยกระแสการตื่นตัวเรื่องโลกร้อนและมลพิษทางอากาศ ทำให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ๆ ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือ Single-use Plastic ยังมีอัตราที่ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ทำให้กระเป๋าผ้ากลายเป็นทางเลือกของผู้ที่ต้องการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมกับช่วยลดขยะพลาสติกไปในตัว 

ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย

กระเป๋าผ้า ไม่ได้เป็นเพียงแค่ถุงช็อปปิงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการนำไปทำเป็นกระเป๋าแจกในงานอีเวนต์ต่าง ๆ หรือเป็นกระเป๋าพรีเมียมขององค์กร เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่แบรนด์ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัทและหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย 

มีตลาดหลากหลายกลุ่ม

กลุ่มลูกค้าของกระเป๋าผ้ามีหลากหลาย ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคที่นำสินค้าไปใช้เอง และลูกค้ากลุ่มองค์กร หน่วยงาน บริษัท ธุรกิจโรงแรม หรือแบรนด์ที่ต้องการทำ Merchandise Product เพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่แบรนด์นอกเหนือจากสินค้าหลัก




ขั้นตอนทำกระเป๋าผ้าให้ขายดี

การทำกระเป๋าผ้าขายเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปนัก ซึ่งนอกจากจะต้องมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี ยังต้องมีการวางแผนการผลิตที่มีขั้นตอนชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยการสั่งผลิตกระเป๋าผ้าเพื่อนำไปขายหรือนำไปใช้เป็นของพรีเมียม มี 5 ขั้นตอนที่สำคัญดังต่อไปนี้ 


1. เลือกวัสดุให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้า

วัสดุที่ใช้ในการตัดเย็บ หรือ “ผ้า” เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยกำหนดความทนทานและราคาของกระเป๋า ซึ่งผ้าแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและความเหมาะสมในการผลิตที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ 

  • ผ้าแคนวาส มีความแข็งแรง ทนทาน และอยู่ทรง นิยมใช้ผลิตเป็นกระเป๋าแฟชั่น อย่าง Tote Bag, Messenger Bag หรือกระเป๋าใบใหญ่สำหรับทำงาน เมื่อใช้งานแรก ๆ ผ้าอาจจะแข็งกระด้าง แต่จะนุ่มลงเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ 
  • ผ้าดิบ เป็นผ้าที่ราคาประหยัด น้ำหนักเบา นิยมนำมาผลิตเป็นถึงช็อปปิง กระเป๋าใส่ของเล็ก ๆ และด้วยราคาที่ย่อมเยาจึงนิยมนำมาผลิตใช้งานอีเวนต์หรือแจกของที่ระลึกต่าง ๆ
  • ผ้าโพลีเอสเตอร์ เป็นผ้าที่มีความทนทานสูง และกันน้ำได้ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงนิยมผลิตเป็น Backpack, Crossbody Bag หรือกระเป๋าเดินทางที่ต้องการความทนทานสูง
  • ผ้าไนลอน เป็นผ้าที่เบาและกันน้ำได้ เหมาะสำหรับใช้เป็น Travel Bag ใบเล็ก ๆ หรือกระเป๋าที่พับเก็บเพื่อพกพาไปใช้ในชีวิตประจำวัน  


2. ออกแบบให้ตรงเป้าหมาย ดึงดูดสายตา

ดีไซน์ของกระเป๋ามีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า หรือการสร้างความประทับใจให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น จึงควรวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง เพื่อเข้าใจถึงความชอบและความต้องการในการใช้งานอย่างแท้จริง โดยควรคำนึงถึง 3 สิ่งดังต่อไปนี้ 

การเลือกสีที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น 

  • กลุ่มวัยทำงานหรือใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป เน้นไปที่สีดำ ขาว เทา
  • กลุ่มวัยรุ่น เน้นสีสันสดใส อย่างสีแดง เหลือง น้ำเงิน ชมพู เขียว
  • กลุ่มที่ชอบความยั่งยืน ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม หรือชอบความมินิมอล เน้นโทนสีเอิร์ทโทน อย่างน้ำตาล เขียวขี้ม้า

การพิมพ์ลวดลายหรือลงโลโก้ให้มีเอกลักษณ์ ช่วยให้คนจำแบรนด์ได้มากขึ้น

  • ขนาดของโลโก้ หากว่าเล็กไปก็อาจจะทำให้เห็นรายละเอียดไม่ชัดเจน และทำให้คนจำแบรนด์ไม่ได้ ดังนั้น ในช่วงการทำกระเป๋าผ้าขายช่วงแรก ๆ ควรออกแบบให้มีขนาดที่สามารถเห็นได้ชัดเจน แต่ไม่จำเป็นต้องใหญ่จนเกินไป
  • เลือกเทคนิคการพิมพ์ที่เหมาะกับรูปแบบของกระเป๋า หากว่าเป็นแบรนด์วัยรุ่นหรือต้องการความเรียบง่าย ขอแนะนำเทคนิคการสกรีนที่มีราคาไม่แพงมากนัก แต่หากว่าต้องการความหรูหราขอแนะนำให้ใช้การปักที่มีลูกเล่นและความพิถีพิถันมากกว่า แต่ราคาในการสั่งผลิตก็สูงตามไปด้วยเช่นเดียวกัน

การออกแบบที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ เลือกใช้สี การออกแบบ และลวดลายที่ช่วยสร้าง Brand Identity ทำให้ลูกค้าจดจำ โดยคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • บุคลิกของแบรนด์ โดยมีการสร้าง Key Message ให้ลูกค้าจดจำ เช่น กระเป๋าผ้าที่ร่วมสร้างความยั่งยืน, กระเป๋าผ้าที่แบกบ้านได้ทั้งหลัง 
  • ออกแบบโลโก้และสกรีนให้มีความโดดเด่น โดยอาจจะใช้ลายโมโนแกรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ลูกค้าจดจำ เช่น กระเป๋าผ้าจากแบรนด์ Gentle Woman 


3. เลือกขนาดให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

การนำไปใช้งานเป็นตัวกำหนดวัตถุประสงค์ของการเลือกขนาดของการทำกระเป๋าผ้าขาย โดยทั่วไปมีหลักในการออกแบบดังนี้

  • กระเป๋าช็อปปิง มีขนาดใหญ่ ใส่ของได้มาก น้ำหนักเบา และทนทาน
  • กระเป๋าเดินทาง หรือใช้ในชีวิตประจำวัน มีช่องใส่ของเยอะ สามารถทำขนาดได้หลากหลายตามการใช้งาน
  • กระเป๋าสำหรับแจกในงานอีเวนต์ มีขนาดที่พอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป น้ำหนักเบา 


4. มีกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ

คุณภาพของกระเป๋าถือเป็นหัวใจหลักในการใช้งาน ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และความพึงพอใจของลูกค้า การเลือกโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานสูงจะช่วยให้มั่นใจว่าสินค้าที่ได้รับจะมีความสวยงาม แข็งแรง ทนทาน และตรงตามความต้องการของตลาด ควรเลือกโรงงานที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • มีประสบการณ์ในการผลิตกระเป๋าผ้าหลากหลายรูปแบบ สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับประเภทของสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่เพียงการรับจ้างผลิตเท่านั้น
  • ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน วัสดุที่ดีช่วยยืดอายุการใช้งานของกระเป๋า และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
  • มีระบบตรวจสอบคุณภาพ (QC) ก่อนส่งสินค้า เพื่อลดความผิดพลาดจากการผลิต และทำให้มั่นใจว่ากระเป๋าทุกใบที่ส่งถึงมือลูกค้าจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
  • รองรับการพิมพ์ลายและโลโก้ตามความต้องการ ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์และความโดดเด่นให้แก่แบรนด์
  • มีขั้นตอนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดของเสียและเลือกใช้กระบวนการที่ยั่งยืนเพื่อรองรับเทรนด์การใส่ใจสิ่งแวดล้อม 


5. วางแผนการตลาด เจาะลูกค้าให้ตรงกลุ่ม

สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไประหว่างการออกแบบและผลิตกระเป๋าผ้าก็คือ การวางแผนการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขาย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่องทางต่าง ๆ เช่น

  • ขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, Facebook, Instagram, TikTok
  • เสนอขายให้กับบริษัทและหน่วยงาน ที่ต้องการกระเป๋าพรีเมียม หรือผลิตกระเป๋าเพื่อใช้ในงานอีเวนต์ต่าง ๆ
  • วางขายหน้าร้าน ทั้งการเปิดหน้าร้าน ฝากขาย หรือ Pop-up Store เพื่อดึงดูดลูกค้า 

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและเกิดการบอกต่อ คือการเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าช็อปปิงที่มีคุณภาพ หากคุณกำลังมองหาโรงงานรับทำกระเป๋าช็อปปิง พร้อมพิมพ์ลายและโลโก้ตามต้องการ Billy Bags พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ เลือกวัสดุ ตัดเย็บ พิมพ์โลโก้ ไปจนถึงการจัดส่งทั่วประเทศ  

ทำไมต้องเลือก Billy Bags ?

  • ประสบการณ์กว่า 30 ปี ในอุตสาหกรรมผลิตกระเป๋า
  • วัสดุคุณภาพสูง พร้อมตัวเลือกหลากหลาย
  • รองรับการผลิตตามออเดอร์ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
  • บริการออกแบบและพิมพ์โลโก้ครบวงจร
  • จัดส่งทั่วประเทศ รวดเร็วตรงเวลา

สามารถกรอกฟอร์มบนเว็บไซต์เพื่อติดต่อเราและรับใบเสนอราคาได้เลยวันนี้ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-802-2194, 086-329-4048 (คุณเภา), 085-186-2523 (คุณแพรว) ในเวลาทำการ 08:00 - 17.00 น. หรือ LINE Official https://line.me/ti/p/LOs4iLUIDe


ข้อมูลอ้างอิง

  1. ครม.ไฟเขียว “งดให้ถุงพลาสติกหูหิ้วในห้าง-ร้านสะดวกซื้อ” ดีเดย์ 1 ม.ค.63 (เป้าถุงหมดจากตลาด 1 ม.ค.64). สืบค้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 จาก https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9620000108792 

+